parallax background

‘ปีใหม่’ ชอปออนไลน์ทะลักจุดแตก Adobe ชี้ช่องบุก Mobile Marketing

ในช่วงเทศกาลวันหยุดยาว โดยเฉพาะช่วงคริสต์มาสและปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง ถือเป็นช่วงเวลาที่ธุรกิจห้างร้านต่าง ๆ จะรู้สึกคึกคักเป็นพิเศษ เพราะเป็นช่วงเวลาที่คนทั้งโลกต่างอยู่ในภาวะอารมณ์อยากเฉลิมฉลอง และค่อนข้างมีความรู้สึก “พร้อม” จะจับจ่ายใช้สอย ทั้งในการซื้อของขวัญ ท่องเที่ยว พักผ่อน หรืออื่น ๆ ซึ่งทำให้เกิดเงินสะพัดเป็นจำนวนมหาศาล

ยิ่งในยุคนี้ที่ได้เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาสนับสนุน ทำให้การซื้อขายสินค้าทำได้ง่ายขึ้น โดยผ่านช่องทางการค้าแบบออนไลน์ ก็ยิ่งเป็นโอกาสที่ธุรกิจรายต่าง ๆ จะสามารถสร้างโอกาสในการแย่งชิงส่วนแบ่งทางการตลาดให้กับตัวเองได้มากขึ้น

อย่างไรก็ตาม เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่า ผู้บริโภคจะยังคงมีการจับจ่ายสินค้าในช่วงฤดูกาลชอปปิ้งที่จะถึงนี้ รวมถึงศึกษาแนวโน้มของผู้บริโภคที่อาจเกิดขึ้น โดยเฉพาะแนวโน้มที่อาจเกิดขึ้นในตลาดออนไลน์ Adobe Digital Insights (ADI) จึงได้วิเคราะห์และรวบรวมข้อมูลโดยผ่านระบบ Adobe Analytics รวมทั้งการสำรวจผู้บริโภคอีกกว่า 1,000คน ทั่วสหรัฐอเมริกา ซึ่งทำให้ได้ข้อมูลการคาดการณ์ที่น่าสนใจดังนี้

 

ตลาดออนไลน์ทะลักจุดแตก-จับตาทำนิวไฮ

ผลสำรวจแรกของADI ชี้ว่า เฉพาะในสหรัฐอเมริกามีแนวโน้มการจับจ่ายช่วงเทศกาลวันหยุดต่าง ๆ ใน 2เดือนสุดท้ายของปีรวมกันมากถึง  1.24แสนล้านเหรียญสหรัฐ หรือเพิ่มขึ้นถึง 14.8%เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นการทำนิวไฮอีกครั้ง และเป็นการทำยอดขายเกินแสนล้านเหรียญติดต่อกันเป็นปีที่สอง

 

 

อย่างไรก็ตาม Taylor Schreiner นักวิเคราะห์ของ ADI บอกด้วยว่า ผลสำรวจยังชี้ให้เห็นว่า ร้านค้าปลีกออนไลน์ที่มีหน้าร้านเป็นของตัวเอง มีแนวโน้มจะได้รับผลประโยชน์มากกว่าการมีร้านค้าออนไลน์เพียงอย่างเดียว โดยผลการสำรวจในส่วนของผู้บริโภคกว่า 1,000 คน 47% ระบุว่า พวกเขาจะไปที่ร้านเพื่อดูหน้าตาของผลิตภัณฑ์ที่เขาตั้งใจซื้อทางออนไลน์

นอกจากนี้ ADI ยังชี้ว่า การซื้อสินค้าออนไลน์และให้ลูกค้าสามารถไปรับของที่หน้าร้านได้ เป็นอีกแนวโน้มหนึ่งที่น่าสนใจ หลังพบว่าการใช้บริการลักษณะดังกล่าวเติบโตถึง 119% หรือเพิ่มขึ้นมากกว่า 1 เท่าตัว ตั้งแต่เดือนมกราคม 2018ที่ผ่านมา และผู้ตอบแบบสำรวจเกินกว่าครึ่งยังเห็นว่า การรับสินค้าที่หน้าร้านเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด

โอกาสทำยอดขายรออยู่ที่ “สมาร์ทโฟน”

ADI ยังคาดว่า มากกว่าครึ่งหนึ่ง หรือประมาณ 57% ของการเข้าชมสินค้าในร้านออนไลน์ จะเป็นการเข้ามาจากอุปกรณ์โทรศัพท์เคลื่อนที่ แยกเป็นเครื่องสมาร์ทโฟน 48% และแท็บเล็ต 9% ขณะที่ยอดการซื้อขายผ่านอุปกรณ์ทั้ง 2 ชนิด คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 37% ของยอดรวมการซื้อขายออนไลน์ แยกเป็นเครื่องมาร์ทโฟน 27% และแท็บเล็ตมีสัดส่วนอยู่ที่ประมาณ 10%

“การตกลงซื้อขายจะเริ่มเปลี่ยนจากหน้าร้านมาสู่มือของผู้บริโภคมากขึ้น” Schreiner กล่าวและขยายความว่า ร้านค้าปลีกยังคงมีโอกาสมากมายในตลาดมือถือ โดยเฉพาะหากผู้ค้าสามารถทำให้ผู้บริโภคหันมาหยิบรถเข็นไปซื้อสินค้าโดยผ่านโทรศัพท์มือถือให้ได้ในอัตราเดียวกับในใช้งานผ่านคอมพิวเตอร์ Desktop ซึ่งช่องว่างนี้มีมูลค่ามากถึง 9 พันล้านเหรียญ

 

 

นักวิเคราะห์ของ ADI ยังชี้ว่า การใช้แอพพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือ มีแนวโน้มที่ช่วยจะกระตุ้นผู้ซื้อได้มากกว่าเว็บดั้งเดิมถึง 2 เท่า ซึ่ง Conversion ที่สูงขึ้นนี้ มีความสัมพันธ์กับการใช้เวลาในแอพที่เพิ่มขึ้น 2.4 เท่า, ความเชื่อมโยงกับ Contents 30%และความถี่ในการตอบกลับที่ดีขึ้น 25%

“ลำโพงอัจฉริยะ-สั่งงานด้วยเสียง” เริ่มมาแรง

ขณะเดียวกันการวิเคราะห์ยังมองไปที่การใช้อุปกรณ์และสื่ออื่น ๆ ที่เป็นเทคโนโลยีเกิดใหม่ ซึ่งพบว่า ลำโพงอัจฉริยะ (Smart Speakers)   เป็นอุปกรณ์ที่น่าจับตามองอย่างยิ่งบนตลาด e-Commerce ในปัจจุบัน

โดย  Schreiner กล่าวว่า ปัจจุบัน 32% ของประชากรในสหรัฐเป็นเจ้าของอุปกรณ์ที่สามารถสั่งงานด้วยเสียงตัวนี้ และอีก 16% กำลังวางแผนที่หามาใช้งานภายใน 1-2 เดือนข้างหน้า ขณะที่ 47% ของผู้ใช้ลำโพงอัจฉริยะระบุว่า พวกเขาใช้อุปกรณ์ตัวนี้เป็นเครื่องมือในการค้นหาสินค้า, 43%ระบุว่า พวกเขาใช้มันในการสร้างช็อปปิ้งลิสต์ และ 32% มีการใช้เพื่อเปรียบเทียบราคา

 

อย่าคาดหวังเรื่องรายได้จาก “Social Media”

แม้จะมีปริมาณผู้เข้าชมจากเครือข่าย Social Media ไปยังเว็บไซต์ชอปปิ้งออนไลน์เพิ่มขึ้น แต่จากการวิเคราะห์ของ ADI ได้พบว่า ตัวเลขรายได้ต่อผู้เข้าชมผ่าน Social Media กลับลดลงถึง 11% ตั้งแต่ไตรมาสที่ 3 ของปี 2016 หรือกว่า 2 ปีที่ผ่านมา

ขณะที่ตัวเลขรายได้ต่อผู้เข้าชมที่มาจากการเข้าชมเว็บไซต์โดยตรง (Direct Traffic) กลับสูงถึง 36% ตามมาด้วยจากการค้นหา (Nature Search) และจากโดนเมนอ้างอิง (Referring Domains) ที่เพิ่มขึ้น 23% และ 15% ตามลำดับ

นอกจากนี้ การสำรวจยังพบว่า ผู้บริโภคน้อยกว่า 25% คาดหวังเพียงแค่การหาคำปรึกษาในสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อหาไอเดียสำหรับการซื้อของขวัญเท่านั้น

“แม้ Social Media จะเป็นพื้นที่ที่การแชร์ข้อมูลของผู้คนที่ใหญ่ขึ้นและใหญ่ขึ้น แต่ก็เป็นการเติบโตในแง่การสร้าง Traffic เท่านั้น แต่มันเป็น Traffic ที่ไม่สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงได้” Schreiner อธิบาย