parallax background

เพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บข้อมูลด้วย ‘Web Tagging’

October 29, 2018

การนำ Tag Management System มาช่วยในการติดตั้ง tag บนเว็บไซต์ ย่อมอำนวยความสะดวกในการทำงาน และลดความผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้นได้จากการติดตั้ง tag แบบ manual

จากบทความเรื่อง “จัดระเบียบ-เพิ่มประสิทธิภาพ Web Analytics ด้วย ‘Tag Governance’” ที่นำเสนอไปก่อนหน้านี้ ซึ่งได้กล่าวถึงหลักการกำกับดูแลการติด tag ดังนั้นในบทความชิ้นนี้ จึงจะขอกล่าวต่อไปถึงขั้นตอนในการทำงาน และแนวทางที่จะช่วยให้การติดตั้ง tag เพื่อเก็บข้อมูล

 

เมื่อพิจารณาเรื่องTag Governance และแบ่งหน้าที่ให้แต่ละฝ่ายรับผิดชอบตามเหมาะสมแล้ว จะเข้าสู่การวางแผนในการติด Tag

ขั้นแรกจะเริ่มจากการเก็บความต้องการทั้งหมดขององค์กร ข้อมูลส่วนนี้จะถูกเรียบเรียงเป็น Business Requirement Document (BRD)

หลังจากนั้นก็กำหนดตัวแปรต่างๆ รวมถึงค่าที่จะนำมาวัดผลจุดประสงค์ทางธุรกิจที่ระบุไว้ใน BRD สร้างเป็นเอกสาร Solution Design Reference (SDR)

เมื่อตรวจสอบแล้วว่า SDR สอดคล้องกับความต้องการทั้งหมดใน BRD แล้ว จะเป็นหน้าที่ของฝ่ายเทคนิคที่จะเขียน Technical Specification ที่ระบุการติดตั้ง Tag ต่างๆ ที่ครอบคลุม SDR

Technical Specification จะอธิบายถึงการวิธีติดตั้ง Tag ที่เก็บข้อมูลตามความต้องการใน BRD และมีตัวอย่าง Code เพื่อให้ทาง Developer สามารถพัฒนาเว็บไซต์ได้

Tag Management System โดยทั่วไปจะมีการกำหนด Data Element เพื่อทำให้การเก็บค่าของตัวแปรในการ Tracking ทำได้ง่ายขึ้น ซึ่ง Data Element จะมีทางเลือกในการเก็บค่าหลายแบบ เช่น Cookie หรือ มาจาก JavaScript โดยหนึ่งในวิธีที่ทำได้สะดวกที่สุดคือการใช้งาน Data Layer

“Data Layer” คือ Object ที่เก็บข้อมูลและส่งไปยัง Tag Management System การใช้ Data Layer จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการส่งข้อมูล เพราะสามารถกำหนดรูปแบบของค่าที่เก็บ และนิยามโครงสร้างข้อมูลได้เอง

ในกรณีที่ไม่มีการกำหนด Data Layer นั้น Tag Management System อาจจะดึงข้อมูลจากไฟล์html เอง ซึ่งอาจจะได้ค่าที่ไม่ถูกต้อง

การวางแผนการติดตั้ง tag อย่างเป็นขั้นเป็นตอน จะช่วยลดภาระในการตรวจสอบแก้ไขภายหลัง และจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเก็บข้อมูลของเว็บไซต์ได้

Methus Bhirakit
Senior Technical Consultant
#TeamMontivory