การเติบโตชนิดที่เรียกว่าเร็วยิ่งกว่าก้าวกระโดดของโลกออนไลน์ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทำให้กระแสการทำตลาดของธุรกิจประเภทต่าง ๆ ต้องเริ่มถ่ายเทน้ำหนักมาให้ความสำคัญกับ Digital Marketing กันมากขึ้นเป็นเงาตามตัวแต่สิ่งสำคัญที่สุดอย่างหนึ่งในการทำ Digital Marketing คือ แคมเปญหรือแผนการตลาดต่าง ๆ ต้องสามารถวัดผลได้ โดยอัพโหลดเครื่องมือซึ่งเป็นชุดคำสั่งที่มี Source Code จำนวนมหาศาลไปไว้ที่เว็บไซต์ ทำให้เกิดปัญหาตามมา คือ เว็บไซต์เกิดอาการ “หน่วง”การเรียกใช้งานเว็บไซต์เต็มไปด้วยความล่าช้าและหลายครั้งที่ทำให้ลูกค้าพากันคลิ๊กหนีออกจากเว็บไซต์ไปตั้งแต่ยังไม่ได้เห็นสินค้า
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันได้มีการพัฒนาเครื่องมือวัดผลขึ้นมาใหม่ และถูกนำไปใช้กันอย่างแพร่หลาย นั่นคือ “Tag Manager” ซึ่งเป็นตัวจัดการโค้ดในส่วนที่เรียกว่า “tag” บนเว็บไซด์หรือแอพพลิเคชั่น ทำให้เกิดประโยชน์ดังนี้
- ใส่โค้ดที่ทำหน้าที่ต่าง ๆ เช่น Analytics, Targeting, Marketing ได้ง่ายและเร็วขึ้น
- สามารถเพิ่ม performance ของเว็บไซต์ได้มากขึ้น ลดอาการหน่วง หรือ loading time
- ควบคุมความปลอดภัยได้ง่าย เพราะมีขั้นตอนในการ approve และ publish กฎต่าง ๆ
โดยในบรรดา “Tag Manager” จากค่ายต่างๆ “Launch” ถือเป็น Tag Manager รุ่นล่าสุดที่ Adobe ได้พัฒนาขึ้น โดยเป็นระบบการส่งโค้ด JavaScript ขั้นสูง ที่ลูกค้าสามารถดำเนินการได้จากฝั่ง Client-side โดยผ่าน “ส่วนขยาย” หรือ Extensions พร้อมชุด API ที่สามารถตอบโต้กับ Adobe Cloud Platform เพื่อกำหนด จัดการ และวิเคราะห์แคมเปญการตลาดหรือการโฆษณา โดยมีคุณสมบัติที่น่าสนใจพอสรุปได้ดังนี้
- ช่วยให้ลูกค้าสามารถใช้งานจากฝั่ง Client-side
- สามารถ integrate กับ tools ต่าง ๆ ของ Adobe Experience Cloud ได้ง่าย เพราะเป็น core feature
- มีระบบ Extensions ซึ่งเป็นโปรแกรมส่วนขยายที่ผู้ใช้สามารถติดตั้งเชื่อมต่อกับ Tools ต่าง ๆ เพื่อเรียกดู วิเคราะห์ กำหนด และแก้ไขแผนการตลาดและการโฆษณาสินค้าได้อย่างอิสระ
- ใน Extensions มีการรวบรวม Feature เด่นๆ เช่น ระบบการรวบรวม จัดระเบียบ และวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อจัดการการตลาดและการโฆษณาผ่านเว็บ, ระบบที่อนุญาตให้ผู้ใช้สามารถกำหนดกฎเกณฑ์ เงื่อนไข และข้อยกเว้น เพื่อตอบสนองต่อเหตุการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างอัตโนมัติ และ ระบบการควบคุมสิทธิ์ใน approve และ publish ครอบคลุมตลอดทุกขั้นตอน เป็นต้น
- โค้ดมีขนาดเล็กกว่า Tag manager อื่น ๆ เช่น เล็กกว่า DTM ถึง 60% และยังเล็กกว่า Google Tag Manager 40%