มากกว่าครึ่งหนึ่งของผู้ใช้ Social Network ในสหรัฐจะเปลี่ยนไปเป็น “Mobile-Only” ภายในปีนี้
นี่เป็นรายงานผลการสำรวจชิ้นล่าสุดที่ eMarketer.com เพิ่งนำออกเผยแพร่เมื่อเร็วๆนี้ ซึ่งชี้ให้เห็นถึงพฤติกรรมการใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์ของคนในสหรัฐ โดยคาดการณ์ว่าภายในปีนี้ ผู้ใช้งานเกินกว่าครึ่งหนึ่งหรือประมาณ 51.7% จะเป็นการใช้งานแบบ “Mobile-Only” หรือใช้งานโดยผ่านอุปกรณ์ Mobile Device เช่น สมาร์ทโฟน ไอแพด และแท็บเล็ต เพียงอย่างเดียวเท่านั้น
รายงานระบุด้วยว่า สถานการณ์ดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มชาวอเมริกันที่ใช้เครื่อง Desktop และ Laptop จะมีจำนวนลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันจำนวนผู้ใช้สมาร์ทโฟนในสหรัฐอเมริกาสูงถึง 232.8 ล้านราย ซึ่งสูงกว่าผู้ใช้อินเตอร์เน็ตบนเครื่อง Desktop และ Laptop ที่มีอยู่ประมาณ 228.9 ล้านคน ซึ่งนั่นทำให้ตัวเลขผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตบนอุปกรณ์พกพาต่าง ๆ เพิ่มขึ้นมากขึ้นถึง 10.6% หรือ โดยมีจำนวนผู้ใช้งานรวมทั้งสิ้น 55.1 ล้านคน
ขณะเดียวกันยังคาดว่าผู้ใช้งาน Social Network ผ่านเครื่อง Desktop และ Laptop จะลดลงประมาณ 1.7 ล้านคนภายในปีนี้ (อ่านรายละเอียดที่: https://tinyurl.com/y6lrawe3)
แนวโน้มดังกล่าวยังสอดคล้องกับสถานการณ์ในภูมิภาคอื่น ๆ ในโลก รวมถึงย่านเอเชียแปซิฟิก อาเซียน และประเทศไทย ซึ่งจากการศึกษาร่วมกันระหว่าง Google และ Accenture Interactive ก็พบข้อมูลที่สอดคล้องกันว่า พฤติกรรมการใช้งานอินเตอร์เน็ตของผู้บริโภคทั่วทั้งภูมิภาคเริ่มมีความโน้มเอียงเข้าสู่ความเป็น “Mobile-First” หรือมีการใช้งานจากอุปกรณ์ Mobile Device ก่อนเป็นอันดับแรก
โดย 60% มีการหาข้อมูลสินค้าผ่านระบบออนไลน์ล่วงหน้าโดยใช้สมาร์ทโฟน ขณะที่ 79% ของผู้บริโภคยังคงใช้โทรศัพท์ค้นหาข้อมูลออนไลน์ แม้จะอยู่ ณ จุดขายในร้านค้า และ 55% ของผู้บริโภคที่ซื้อของผ่านระบบออนไลน์ มีความโน้มเอียงที่จะซื้อผ่านสมาร์ทโฟน (อ่านรายละเอียดได้ที่: ‘3 วินาที’ ชี้ตาย Mobile Experience)
ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น ได้สะท้อนให้เห็นถึงการรุกคืบเข้ามามีอิทธิพลในโลกดิจิทัลมากขึ้นเรื่อย ๆ ของอุปกรณ์ประเภท Mobile Device ต่าง ๆ และคาดว่าน่าจะยิ่งมากขึ้นไปกว่านี้อีกหลายเท่าตัว เมื่อคลื่นความถี่ในระบบ “5G”เปิดการใช้งานอย่างเต็มประสิทธิภาพภายในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
ขณะเดียวกัน นี่ยังเปรียบเสมือน “สัญญาณเตือน” ไปถึงแบรนด์ต่าง ๆ ที่ไม่เพียงแต่จะต้องลุกขึ้นมา “ลงมือ”ทำอะไรบางอย่างเพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่กำลังรออยู่
เพราะสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ได้ส่งผลเพียงแค่การเปลี่ยนแปลงของ “แพลตฟอร์ม” ต่าง ๆ บนโลกออนไลน์ แต่ยังลามไปถึง “พฤติกรรม”การใช้งานอินเตอร์เน็ตของผู้บริโภค เช่น การเสพข้อมูลข่าวสารได้เร็วขึ้น บ่อยขึ้น เน้นเนื้อหาที่เป็นรูปภาพหรือคลิปวิดีโอมากกว่าตัวอักษร รวมทั้งมุ่งตอบสนองความต้องการเฉพาะตัวมากขึ้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนมีความเกี่ยวพันโดยตรง“การสร้างประสบการณ์”หรือ Customer Experience ของธุรกิจทุกแบรนด์ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่สำคัญที่แบรนด์จะต้อง“เข้าใจ”และ “ปรับตัว”ให้เท่าทันกับพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปดังกล่าวของผู้บริโภค เช่นในประเด็นดังต่อไปนี้
นี่ยังไม่นับรวมกับการเตรียมโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีที่จะสามารถเชื่อมต่อกับระบบอื่น ๆ เพื่อให้สามารถมองเห็นเส้นทางการเดินทางของลูกค้า .. เมื่อใดที่เขาใช้อุปกรณ์เคลื่อนที่ เมื่อใดที่ต้องสื่อสารกับพวกเขา และจะต้องสื่อสารด้วยเนื้อหาแบบไหน ช่องทางใด หรือแม้แต่การคิดถึงกลยุทธ์ “Cross-Channel” ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะทำให้สามารถบูรณาการร่วมกับการทำการตลาดผ่าน Mobile Device ให้เป็นไปอย่างประสิทธิภาพ สามารถส่งสารได้อย่างถูกที่ และถูกเวลา