5 แนวทางต่อยอด ‘เทคโนโลยีเกิดใหม่’ ที่น่าสนใจในปี 2018

คงไม่มีใครปฏิเสธว่า ปัจจัยสำคัญที่เป็นแรงผลักดันให้โลกของเราก้าวไปสู่ยุค Digital Transformation ดังเช่นในปัจจุบันนั้น เป็นผลมาจาก “เทคโนโลยีเกิดใหม่” (Emerging technologies) จำนวนมากที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อตอบสนองการใช้ชีวิตของมนุษย์

AI (Artificial Intelligence: AI), หุ่นยนต์, เทคโนโลยีเสียง (Voice), AR (Augmented Reality) หรือแม้แต่ Chatbot เหล่านี้คือตัวอย่างของเทคโนโลยีใหม่ที่ถูกพัฒนาขึ้น และถูกองค์กรต่าง ๆ นำไป “ต่อยอด” เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ให้สามารถเกิดอรรถประโยชน์ต่อชีวิตของเราได้มากยิ่งขึ้น

โดยล่าสุด “CMO.com” ซึ่งเป็นเว็บไซด์นำเสนอข้อมูลเชิงลึกด้านการตลาดของ Adobe ได้รวบรวม 5 ต้นแบบการนำเทคโนโลยีเกิดใหม่มาพัฒนา เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับผู้คน จากสิ่งที่ก่อนหน้านี้เราจะเห็นมันได้แค่ในหนังเท่านั้น

BMW เปลี่ยนรถให้เป็นผู้ช่วยส่วนตัว

ค่ายรถยนต์ ถือเป็นพวกแถวหน้าในการพัฒนาเทคโนโลยีเสียง โดยผนวกรวม Alexa ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการควบคุมด้วยเสียง (Voice Control System) ของ Amazon เข้ากับอุปกรณ์เสียงจากผู้ผลิตอื่นๆ โดยปี 2018 ที่ผ่านมา BMW ได้ยกระดับเทคโนโลยี ด้วยการพัฒนา “Intelligent Personal Voice Assistant” เพื่อนำมาใช้งานในรถยนต์ โดยผู้ขับขี่สามารถสั่งงาน หรือเข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ ด้วยการพูดเท่านั้น โดยเทคโนโลยีดังกล่าวถูกเริ่มนำมาใช้ในรถยนต์โมเดลต่าง ๆ ของ BMW ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2018 เป็นต้นมา

—————————

สร้างพลังให้ศิลปินด้วย AI

นี่เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “Adobe Remix” ที่Adobe ประกาศเชิญชวนศิลปินและชุมชนทั่วโลกนำโลโก้ของ Adobeมาแต่งแต้มสีสันใหม่ตามแบบฉบับของแต่ละคน โดยล่าสุดศิลปินVisual Designer ชาวอัลบาเนีย “Vasjen Katro”ได้โดดมาเข้าร่วมการออกแบบ โดยใช้ Style Transfer Technology ที่มีอยู่ใน Adobe Sensei ซึ่งเป็น AI และ Machine Learning สำหรับการสร้างงานศิลปะและการตลาดที่ Adobeเป็นผู้พัฒนาขึ้น

โดย Style Transfer Technology ช่วยให้ศิลปินสามารถ Applyโครงสร้างและรายละเอียด เช่น สี แสง จากภาพหนึ่งไปยังอีกภาพหนึ่งได้โดยอัตโนมัติ ซึ่ง Katroได้จัดการ Transfer สไตล์BrushStrokesของ van Goghไปยังพื้นผิวอื่น ๆ ในงาน Remixของเขา ก่อนนำชิ้นงานทั้งหมดมาทำงานใน Adobe Creative Cloud และออกมาเป็นผลงาน ซึ่งการใช้ AIเพื่อผลิตผลงานของ Katroครั้งนี้ ถือเป็นการสนับสนุนผลการวิจัยเมื่อเร็วๆ นี้ของ Adobeที่ชี้ว่า AIจะถูกนำมาประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและเคลื่อนเข้าสู่พื้นที่ใหม่ๆ ของการใช้ความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น

—————————

เรียนแพทย์อย่างสมจริงมากขึ้นกับ “AR”

ที่ Cleveland Clinic มหาวิทยาลัย Case Western Reserve ของสหรัฐ มีการนำ AR มาประยุกต์ใช้ เพื่อให้นักศึกษาแพทย์ได้ศึกษาร่างกายมนุษย์ในรูปแบบ 3 DInteractive รวมทั้งให้ความรู้เกี่ยวกับดูแลผู้ป่วย และคาดว่าในอนาคต AR จะถูกพัฒนาเพื่อนำไปใช้ในการสอบและการฝึกในห้องผ่าตัดด้วย นี่จึงถือเป็นอีกก้าวหนึ่งของการเข้าสู่ Transformation ของระบบสาธารณสุข

—————————

“Chatbot” อัจฉริยะจัดการผู้สมัครงาน

Mya คือ บริษัทจัดหางานผ่านเว็บไซต์ที่ช่วยบริษัทต่าง ๆ จัดกลุ่มและคัดกรองผู้สมัครเพื่อรับเข้าทำงาน โดยที่หน้าของเว็บไซต์มีการฝังโปรแกรมChatbot อัจฉริยะชื่อ “Mya” ซึ่งจะเป็นตัวจัดการกลุ่มผู้สมัครและพูดคุยกับผู้สมัครผ่านทางข้อความText Message, Facebook, Skype, email หรือโปรแกรมChat เพื่อสกรีนกลุ่มผู้สมัครในเบื้องต้นให้กับบริษัทผู้ใช้บริการ รวมถึงมีการให้คำแนะนำต่างๆ เกี่ยวกับการสมัครงานให้กับผู้สมัครได้ด้วยเช่นกัน

—————————

Smart Shelves เชื่อมค้าปลีกสู่โลกดิจิทัล

“Kroger” แบรนด์ผู้ให้บริการซุปเปอร์มาเก็ตรายใหญ่อันดับ 2 ของสหรัฐอเมริกา  ได้ออกมาประกาศเมื่อต้นปี 2018 ถึงความร่วมมือกับ Microsoft Azure เพื่อนำระบบ Smart Shelves ชื่อว่า “Kroger Edge” มาใช้งานในร้านค้าต่าง ๆ ในเครือ โดยเจ้า Kroger Edge เป็นจอแสดงผลดิจิทัลที่นำมาติดแทนป้ายบอกราคาแบบเดิม แต่จะไม่แสดงแค่เพียงราคาของสินค้าเท่านั้น เพราะยังแสดงให้เห็นถึงคุณค่าทางโภชนาการ หรือคุณสมบัติของสินค้าที่อยู่บนชั้นวางให้ลูกค้าพิจารณาได้แบบเรียลไทม์อีกด้วย

ที่มา : cmo.com