เว็บไซด์การตลาดชื่อดัง “eMarketer” ได้เผยแพร่รายงาน “Digital Ad Spending 2019” ซึ่งได้ชี้ให้เห็นถึงสถานการณ์เม็ดเงินที่สะพัดในวงการโฆษณาดิจิทัล โดยคาดว่าปีนี้เม็ดเงินโฆษณาดิจิทัลทั่วโลกจะเพิ่มขึ้น 17.6% เป็น 3.3 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งส่งผลให้เม็ดเงินใน Digital Ad. มีสัดส่วนประมาณครึ่งหนึ่งของตลาดโฆษณาทั่วโลกเป็นครั้งแรก
- หลายประเทศ เช่น จีน สหรัฐ สหราชอาณาจักร นอร์เวย์ สวีเดน ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ คือประเทศลำดับต้น ๆ ที่มีเม็ดเงินไหลเข้าไปอยู่กับกลุ่ม Digital Ad. มากที่สุด โดยเฉพาะจีนที่มีแนวโน้มพุ่งสูงถึงเกือบ 70%
- สำหรับภูมิภาคอื่น เช่น ละตินอเมริกา เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงไทย แม้เม็ดเงินจะไม่ถึง 50% แต่ก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
- Google ได้รับส่วนแบ่งสูงสุด 1.03 แสนล้านเหรียญสหรัฐ, Facebook 6.7 หมื่นล้านเหรียญ, Alibaba 2.9 หมื่นล้านเหรียญ และ Amazon 1.4 หมื่นล้านเหรียญ
(อ่านต้นฉบับรายงานได้ที่: http://tinyurl.com/y3wj4lyy)
อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ได้หมายความว่า ช่องทางการโฆษณาแบบดั้งเดิมจะถูกละเลยจนสูญพันธุ์ ตรงกันข้าม แบรนด์จะยังคงให้ความสำคัญและถูกนำมาใช้ประโยชน์ในการผสานการโฆษณาข้ามช่องทาง เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคในทุก Touchpoints
ทิศทางดังกล่าว แม้ในมุมหนึ่งอาจชี้ให้เห็นถึงทิศทางการเติบโตของการตลาดดิจิทัล และทำให้หลายแบรนด์ที่ก้าวสู่ Digital Transformation เกิดความมั่นใจมากขึ้นว่า เราเดินมาถูกทางแล้ว
แต่ขณะเดียวกัน แนวโน้มที่เกิดขึ้นก็ยังเป็น “สัญญาณเตือน” ถึงความรุนแรงในการแข่งขันกันอัดแคมเปญการตลาดผ่าน Digital Ad. ของแบรนด์ต่าง ๆ ที่เป็นไปอย่างเข้มข้น ดุเดือด และต้องชิงดี ชิ่งเด่นกันมากขึ้นในอนาคต
และแบรนด์จะ “พลาด” ไม่ได้อย่างเด็ดขาด เพราะหากพลาดขึ้นมาเมื่อใด ก็อาจหมายถึงการสูญเสียลูกค้าให้กับคู่แข่ง หรือความเสียหายอื่น ๆ ต่อธุรกิจตามมา
สัญญานดังกล่าว จึงทำให้แบรนด์ต้องทำงานหนักมากขึ้น โดยเฉพาะการพัฒนา “ศักยภาพ” ในเรื่องการบริหารจัดการความต้องการของลูกค้า รวมถึงการปรับกลยุทธ์การนำเสนอเนื้อหาไปถึงกลุ่มเป้าหมาย ทำให้การสร้างประสบการที่ดีเกิดขึ้นได้อย่างถูกที่ ถูกคน ถูกเวลา และถูกช่องทาง เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงทั้งปวงที่อาจเกิดขึ้น
ดังนั้นไม่ว่ากระแสการตลาดจะคึกคักมากสักเพียงใด แต่แบรนด์ก็ยังต้องทำงานหนักอย่างต่อเนื่อง
ดังนั้นไม่ว่ากระแสการตลาดจะคึกคักมากสักเพียงใด แต่แบรนด์ก็ยังต้องทำงานหนักอย่างต่อเนื่อง เพื่อหลีกเลี่ยง “ความเสี่ยง” ทั้งปวงที่อาจจะตามมา และจะประมาทไม่ได้อย่างเด็ดขาด แม้เพียงสักวินาทีเดียว!