ปัจจุบันเทคโนโลยี AI (ARTIFICIAL INTELLIGENCE) ถูกนำมาใช้ให้เป็นประโยชน์ในด้านต่าง ๆ อย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจขององค์กร เนื่องจากเทคโนโลยี AI เป็นการทำงานกับข้อมูล ดังนั้นหากองค์กรใดสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีนี้ได้มากเท่าใด ก็ย่อมหมายถึง “โอกาส” ที่จะสามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกเพื่อนำไปใช้ประโยชน์เพื่อการแข่งขันด้านการพัฒนาประสิทธิภาพและการตลาดกับคู่แข่งได้
อย่างไรก็ตาม หลายคนอาจจะคิดว่า AI เหมาะสำหรับการนำมาประยุกต์ใช้เพื่อขับเคลื่อนองค์กรขนาดใหญ่เท่านั้น แต่โดยข้อเท็จจริงแล้วองค์กรธุรกิจขนาดเล็กหรือในกลุ่ม SMEs ก็สามารถใช้ประโยชน์จาก AI เพื่อสร้างผลกำไรและขับเคลื่อนธุรกิจของตัวเองได้เช่นกัน ซึ่งนี่ก็เป็นตัวอย่างบางส่วนที่ธุรกิจขนาดเล็กจะสามารถหาประโยชน์ได้จาก AI
การตลาด
“การตลาด” อาจเรียกได้ว่าเป็นผลประโยชน์ที่ชัดเจนที่สุด และเป็นสิ่งแรกสุดที่ธุรกิจ SMEs จะสามารถใช้ประโยชน์ได้จาก AI โดยนำมาเป็นเครื่องมือวิเคราะห์ เพื่อจัดทำแคมเปญ หรือแผนการตลาด รวมทั้งประเมินผลตอบแทน (ROI) จากแผนที่ได้ลงทุนไปว่ามีความคุ้มค่า มากน้อยขนาดไหน นอกจากนี้ AI ยังช่วยให้เราสามารถวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อทำความเข้าใจพฤติกรรมและความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นข้อมูลที่จะช่วยในการตัดสินเดินหน้าหรือปรับกลยุทธ์การตลาดของเราต่อไป
การวิเคราะห์ข้อมูลการแข่งขัน
ปัจจุบันมีการพัฒนา AI ที่ช่วยให้องค์กรธุรกิจวิเคราะห์ข้อมูลการแข่งขัน หรือ Competitive intelligence (CI) โดยสามารถกลั่นกรองการสนทนาผ่านสังคมออนไลน์ของลูกค้าและคู่แข่ง เพื่อให้ได้ข้อมูลเชิงลึกว่าลูกค้ากำลังรู้สึกอย่างไรกับสินค้าของเราและคู่แข่ง หรืออีกนัยหนึ่ง คือ เป็นการตรวจสอบความเชื่อมั่นที่สังคมมีต่อสินค้าของเราและคู่แข่ง เพื่อนำมาประเมินจุดอ่อน-จุดแข็ง และปรับปรุงแผนการตลาดเพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันให้กับสินค้าต่อไป
การพัฒนาสินค้าใหม่
นอกจากการวิเคราะห์ข้อมูลการแข่งขันแล้ว AI ยังถูกนำมาใช้ประโยชน์ในการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกของลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย รวมทั้งปัจจัยแวดล้อม เพื่อนำไปใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด ขณะเดียวกัน ก็สามารถนำไปใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลบหลังจากสินค้าถูกปล่อยสู่ตลาด เพื่อรับทราบปัญหาและทำความเข้าใจกับลูกค้า รวมถึงการนำไปใช้ในการติดตามข้อมูลเมื่อบริษัทคู่แข่งมีสินค้าใหม่ๆ ออกมา เพื่อหาแนวทางพัฒนาสินค้าของเราเอง
การวิเคราะห์ Supply chain
AI ไม่เพียงมีส่วนช่วยสร้างศักยภาพการแข่งขันให้บริษัทเท่านั้น แต่ยังช่วยในการจัดการและวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมากกี่ยวกับห่วงโซ่อุปทาน การจัดซื้อ และตารางการจัดส่งของบริษัท ทำให้สามารถเข้าใจแนวโน้มการวางแผนจัดซื้อและสต็อกวัตถุดิบในแต่ละเทอมได้ดีขึ้น รวมถึงช่วยประเมินว่าเมื่อใดที่ควรผลิตและจัดเก็บสินค้าสำเร็จรูป ซึ่งจะทำให้บริษัทสามารถตัดสินใจว่าจะเพิ่มประสิทธิภาพ Supply chain เพื่อลดความล่าช้า ความไร้ประสิทธิภาพ และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องได้อย่างไร
การบริหารการเงินและต้นทุน
“การเงิน” ถือเป็นข้อมูลชนิดหนึ่ง ซึ่งบริษัทสามารถใช้ AI ในการประเมินถึงความต้องการงบประมาณเพื่อใช้ในการขับเคลื่อนธุรกิจ โดยอิงจากความต้องการทางการตลาดและการประมาณการ ซึ่งจะทำให้สามารถบริหารต้นทุน และตรวจสอบเพื่อให้เกิดค่าใช้จ่ายที่ต่ำสุด
การบริหารทรัพยากรบุคคล
ไม่ใช่เรื่องง่ายที่แต่ละองค์กรจะสามารถสร้างการมีส่วนร่วมของพนักงานได้อย่างมีประสิทธิผล อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีการพัฒนาเครื่องมือของ AI เพื่อช่วยขับเคลื่อนการบริหารทรัพยากรบุคคล ซึ่งทำให้การจัดการต่าง ๆ นับตั้งแต่การคัดกรองใบสมัคร ไปจนถึงกระบวนการรายงาน KPIเป็นไปอย่างอัตโนมัติและรวดเร็วมากขึ้น รวมทั้งลดรายละเอียดเกี่ยวกับการบริหารทรัพยากรบุคคลลงได้มาก ทำให้บริษัทสามารถมุ่งเน้นการสร้างประสบการณ์ที่ดีกับพนักงาน เพื่อให้เกิดการมีส่วนร่วมได้เพิ่มขึ้น
การบริการลูกค้า
ไม่มีใครปฏิเสธได้ว่า “การบริการลูกค้า” ถือเป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญของธุรกิจ โดยปัจจุบันองค์กรส่วนใหญ่มักมีการนำ AI มาใช้ประโยชน์ในการบริการลูกค้า โดยโซลูชั่นในตระกูล Chatbot เป็นโซลูชั่นที่นิยมนำมาใช้ในการตอบโต้กับลูกค้า ซึ่งไม่เพียงจะช่วยให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงบริการสนับสนุนได้ตลอดเวลาเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการจ้างตัวแทนให้บริการลูกค้าไปได้ในตัวด้วย
