ความเติบโตของเทคโนโลยีดิจิทัล ได้แผ่ขยายอิทธิพลไปยังองค์กรธุรกิจต่าง ๆ ต้องหันมาปรับกลยุทธ์โดยใช้ Digital Marketing เป็นเครื่องมือทำตลาดกันอย่างแพร่หลาย แต่ด้วยสถานการณ์ของสื่อในปัจจุบันที่มีอยู่อย่างกระจัดกระจายและซับซ้อน รวมถึงจำนวนอุปกรณ์และปริมาณข้อมูลจำนวนมหาศาลที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดความยากลำบากในการประเมินสถานกรณ์ เพื่อวางแผนจัดแคมเปญโฆษณาให้เข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้แม้บริษัทต่าง ๆ จะหันมาตัดสินใจซื้อโฆษณาผ่านโปรแกรมการจัดการอัตโนมัติ (Programmatic Advertising) กันมากขึ้น แต่ประสิทธิภาพของเทคโนโลยีที่นำมาใช้ก็ยังไม่สามารถตอบโจทย์การบริหารจัดการสื่อเพื่อเผยแพร่โฆษณาได้ดีเพียงพอ นอกจากนี้ยังเกิดปัญหาเรื่องความโปร่งใส่ทั้งในเรื่องค่าใช้จ่าย รายรับ และความหลากหลายของสื่อขึ้นมาในหลายกรณี
ด้วยเหตุนี้ เมื่อปีที่ผ่านมา Adobe จึงออกมาเขย่าวงการด้วยการเปิดตัว Adobe Advertising Cloud ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มด้านการจัดการโฆษณาทางทีวีและสื่อดิจิทัลแบบอัตโนมัติและครบวงจร โดยมีองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ เช่น Ford, Hotel.com, Johnson & Johnson, L’Oréal, MGM และ Southwest Airlines ที่ตบเท้าหันมาลงทุนกับแพลตฟอร์มของAdobe อย่างต่อเนื่อง
Cross-channel & end-to-end
Adobe Advertising Cloud เป็นแพลตฟอร์มที่ผสานการทำงานร่วมกันระหว่าง Creative, Data และการจัดซื้อสื่อที่ครบวงจร เพื่อสร้างแรงจูงใจและเกิด Conversionตามเป้าหมายโฆษณา
Adobe Advertising Cloud เป็นการรวมความสามารถของ Adobe Media Optimizer กับ TubeMogul ที่ถูกAdobe ซื้อกิจการไปก่อนหน้านี้ ทำให้เกิดความสะดวกในการเผยแพร่โฆษณาทั้งในรูปวิดีโอ แบนเนอร์ ซึ่งเปิดให้ควบคุมการซื้อโฆษณาผ่านเครื่องมือค้นหาหรือช่องแสดงโฆษณา โดยผ่านระบบแลกเปลี่ยนโฆษณากับสื่อพันธมิตร อาทิ Google Facebook Yahoo และอื่น ๆ ได้เองโดยตรง
Adobe Advertising Cloud ประกอบไปด้วยโซลูชันหลักสามข้อ ได้แก่ Search Engine Marketing (SEM) การทำการตลาดผ่านระบบSearch Engine เช่น google yahoo, Demand Side Platform (DSP) สามารถควบคุมการซื้อโฆษณาอัตโนมัติทุกรูปแบบ ทั้งแบนเนอร์ วิดีโอ โซเชียล รายการทีวี และ Advertising Cloud Creative การปรับแต่งงานโฆษณาแบบไดนามิก โดยเชื่อมโยงกับ Creative Cloud เพื่อให้ได้เนื้อหาที่ถูกต้องและเหมาะสมกับลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย
ผสานพลังทุกโซลูชั่นในทุกขั้นตอน
Adobe Advertising Cloud สามารถทำงานร่วมกับAdobe Analytics Cloud รวมถึง Audience Manager ในการวิเคราะห์และจัดการกลุ่มเป้าหมายและข้อมูลข้ามช่องทาง เพื่อกำหนดเป้าหมายและเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญ นอกจากนี้ยังบูรณาการร่วมกับ Adobe Marketing Cloud ในการวางแผน การซื้อ ดำเนินการใช้สื่อผ่านช่องทางต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด
เช็คขุมพลัง Adobe Advertising Cloud
ดังที่กล่าวไว้ข้างต้นถึงประสิทธิภาพของ Adobe Advertising Cloud ที่สามารถทำงานผสานโซลูชั่นต่าง ๆ ของ Adobe Cloud แพลตฟอร์ม ในการบริหารจัดการสื่อเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับแคมเปญการตลาดของเรา ซึ่งต่อไปนี้ คือ 5ตัวอย่างสถานการณ์การนำไปใช้งานจริง
CUSTOMER ACQUISITION
สิ่งสำคัญในการเผยแพร่แคมเปญ ไม่เพียงแต่ต้องการให้มีผู้ชมหรือผู้ได้รับข่าวสารในปริมาณมากเท่านั้น แต่ยังต้องการลูกค้าที่สามารถสร้างมูลค่าได้ด้วย แต่บางครั้งการปิดกั้นข้อมูลและช่องทางของลูกค้า ทำให้เป็นเรื่องยากที่จะสามารถระบุหรือเพิ่มจำนวนกลุ่มเป้าหมายที่มีศักยภาพได้ นอกจากนี้จากการเพิ่มขึ้นของแพลตฟอร์มที่แตกต่างกันไป ยังทำให้เป็นเรื่องยากที่จะแชร์พฤติกรรมของผู้รับข่าวสาร ทำให้เส้นทางข้อมูลขาดความเชื่อมต่อและไม่มีประสิทธิภาพ
อย่างไรก็ตาม โดยผ่านการทำงานร่วมกันระหว่าง Adobe Advertising Cloud และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ของ Adobe เราสามารถค้นหาและรักษาฐานลูกค้าที่มีศักยภาพเอาไว้ได้ภายในเวลารวดเร็ว เริ่มต้นด้วยการรวบรวมข้อมูลและกิจกรรมการท่องเว็บ ประวัติการสนทนา และวิธีที่ผู้บริโภคตอบสนองต่อโฆษณาที่เสียค่าใช้จ่าย จากนั้นจะมีการรวบรวมข้อมูลจากทุกช่องทางดังกล่าว เข้ากับแพลตฟอร์มการจัดการข้อมูลแบบรวมศูนย์ เพื่อสร้างส่วนข้อมูลของลูกค้า ซึ่งจะทำให้เราสามารถสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมายด้วยการส่งเนื้อหาหรือโฆษณาส่วนบุคคลไปถึงในช่องทางที่เหมาะสม อาทิ เครื่องมือการค้นหา แบนเนอร์ วิดีโอ โซเชียล รายการทีวี
AUDIENCE ACTIVATION
การมีจุดเชื่อมต่อกับลูกค้าที่มากขึ้น ยิ่งเป็นการสร้างโอกาสที่จะทำให้เรามีลูกค้าที่มีความภักดีเพิ่มขึ้น แต่การจะบรรลุถึงสิ่งนี้ จำเป็นต้องมีการส่งเนื้อหาผ่านช่องทางและเครื่องมือสื่อสารประเภทต่าง ๆ เพื่อดึงดูดกลุ่มผู้ชมหน้าใหม่ และขยายกลุ่มที่มีอยู่เดิม แต่มันก็แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย หากการสร้างเนื้อหา การจัดการข้อมูล และการซื้อโฆษณาบนแพลตฟอร์มที่ไม่สามารถสร้างการสื่อสารได้
ด้วย Adobe Advertising Cloud ทำให้เราสามารถย้ายข้อมูลผ่าน Adobe Experience Cloud และโซลูชั่นภายนอก ซึ่งทำให้รับรู้ถึงมูลค่าที่ทั้งหมดของผู้รับข่าวสารทั้งจากเนื้อหาและโฆษณาที่พยายามส่งออกไป ด้วยวิธีนี้จะช่วยให้เราสามารถส่งข้อความออกไปอย่างตรงเป้าหมาย ถูกที่ และถูกเวลา ในทุก ๆ แคมเปญ
นอกจากนี้ จากข้อมูลของ Adobe ระบุว่า การทำงานร่วมกันระหว่าง Adobe Advertising Cloud และ Audience Manager ช่วยให้ผู้ลงโฆษณาดิสเพลย์รายใหญ่จำนวนหนึ่ง บรรลุอัตราการแข่งขัน 90%หรือสูงกว่า สำหรับผู้ชมออนไลน์ที่เป็น first-party รวมทั้งสามารถเข้าถึงกลุ่มhigh-value audiences เพิ่มขึ้น ส่งผลทำให้เกิด Conversion และรายได้ที่เพิ่มขึ้น
DYNAMIC CREATIVE OPTIMIZATION
เราอาจจะมีข้อมูลเชิงลึกของผู้บริโภค แต่มักไม่มีเวลาหรือทรัพยากรเพื่อเข้าไปดำเนินการกับกลุ่มเป้าหมายเฉพาะดังกล่าว และหากไม่มีเครื่องมือที่เหมาะสม จะทำให้การผลิต Content หรือโฆษณาที่สามารถใช้งานได้สำหรับทุกช่องทางและทุกการแสดงผล ต้องเสียค่าใช้จ่ายจำนวนมาก และยังอาจไม่สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้ทุกรายตามต้องการ
อย่างไรก็ตาม Adobe Advertising Cloud สามารถช่วยได้ โดยสร้าง Feed-based ad units แบบไดนามิก ที่สามารถสร้างเนื้อหาการตลาดและการมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว โดยที่ไม่จำเป็นต้องสร้างโฆษณาใหม่หมดทุกมิติหรือสำหรับผู้รับข่าวสารทุกกลุ่ม โดยโซลูชั่น Dynamic Creative Optimization จะช่วยให้Adobe Advertising Cloud ปรับใช้โฆษณาสำหรับช่องทาง การแสดงผล และกลุ่มผู้ชมได้โดยอัตโนมัติ
JOURNEY MANAGEMENT
ความแตกต่างของแพลตฟอร์มและเทคโนโลยีการตลาด ทำให้เป็นเรื่องยากในการติดตามพฤติกรรมของผู้บริโภคข้ามช่องทาง ซึ่งอาจส่งผลให้เราพลาดข้อมูลเชิงลึกที่จะช่วยจัดการและสร้างประสบการณ์ที่ดีกับลูกค้า อันจะนำมาซึ่ง Conversion ในท้ายที่สุดได้
Adobe จึงได้สร้างเครื่องมือที่จำเป็นในการรวบรวมข้อมูลจากtouch points ต่าง ๆ ในเส้นทางของผู้บริโภค ซึ่งด้วยข้อมูลเชิงลึกและการผสานรวมที่เหมาะสม ทำให้ขั้นตอนการทำงานต่าง ๆ ในการส่งมอบและสร้างประสบการณ์ที่ดีกับลูกค้าแต่ละรายเป็นอย่างอัตโนมัติ ซึ่งจะช่วยยกระดับแคมเปญและโอกาสสร้างรายได้ให้เพิ่มขึ้น
CAMPAIGN ORCHESTRATION
การขาดจุดรวมศูนย์ในการสร้าและจัดระเบียบแคมเปญโดยอัตโนมัติ ทำให้ต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายมากในการกระจายแคมเปญตามช่องทางการสื่อสารต่าง ๆ นอกจากนี้ หากปราศจากภาพรวมของลูกค้า และความสามารถในการแบ่งกลุ่มเป้าหมายอย่างละเอียด ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะส่งโฆษณาส่วนบุคคลในทุกขั้นตอนของCustomer journey ได้ และเมื่อใช้กลุ่มที่ไม่ได้รวมเข้าอยู่ในเป้าหมาย ก็ไม่สามารถปรับ ROI สำหรับค่าใช้จ่ายทางการตลาดดังกล่าวได้
Adobe มีเครื่องมือที่ช่วยรวบรวมข้อมูลทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ได้ที่ศูนย์กลางเพื่อช่วยให้เราสามารถระบุกลุ่มเป้าหมาย และ Map customer journeys โดยระบบจะปรับเปลี่ยนข้อเสนอตามโปรไฟล์ที่ไม่ระบุตัวตนและรับรองความถูกต้องเพื่อให้คุณสามารถส่งข้อความแบบตัวต่อตัว คุณสามารถทำการตลาดและทำการตลาดใหม่ได้แบบเรียลไทม์ การวัดผลแคมเปญ และวิเคราะห์บทบาทช่องทางการสื่อสารแต่ละช่องทาง ในกระบวนการทั้งหมด