การบังคับใช้อย่างเป็นทางการของกฎหมายความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้บริโภคGeneral Data Protection Regulation (GDPR)ตั้งแต่วันที่ 25 พฤษภาคม2018 ที่ผ่านมา ซึ่งแม้การบังคับใช้จะมีผลเฉพาะในสหภาพยุโรป (EU) เท่านั้น แต่ในทางปฏิบัติแล้ว GDPR กลับสร้างกระทบกระจายไปทั่วโลก โดยเฉพาะในวงการ Digital Marketing ที่ต่างได้รับแรงกระเพื่อมมากบ้างน้อยบ้างไปตามๆ กัน โดยล่าสุด eMarketerได้มีการเผยแพร่ 5 แผนภูมิจากผลการสำรวจตั้งแต่การประกาศบังคับใช้GDPR จนถึงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งชี้ให้เห็นถึงแรงกระเพื่อมจากGDPR ที่มีต่อวงการ Digital Marketing ได้เป็นอย่างดี
โดยประเด็นแรกGDPRกำลังทำให้“Private Marketplace” (PMP) น่าสนใจยิ่งขึ้นสำหรับนักการตลาด ซึ่งจากการสำรวจนักการตลาดในสหรัฐกว่า 300คน ในช่วงการบังคับใช้กฎหมายในอียูเมื่อเดือนพฤษภาคม 2018พบกลุ่มตัวอย่างถึง 55% ระบุว่า GDPR ทำให้พวกเขามีแนวโน้มจะย้ายงบประมาณจัดซื้อโฆษณาจากระบบOpen Exchangesไปสู่การใช้Programmatic-guaranteed and PMP เพิ่มขึ้น
ประเด็นต่อมา คือ เว็บไซต์ต่าง ๆ ต้องเข้มงวดมากขึ้นเกี่ยวกับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เข้ามาใช้งาน ขณะที่ผู้เผยแพร่โฆษณาก็ต้องกวาดล้างเครื่องมือ Ad Trackersซึ่งจากการศึกษาของ Reuters Instituteพบว่า นับตั้งแต่การบังคับใช้ GDPR ของอียู ส่งผลให้จำนวน Cookies ของบุคคลที่สามในเว็บไซต์ข่าวทั่วยุโรป ลดลงถึง 22%
GDPR สร้างความวิตกกังวลให้กับกลุ่มผู้บริหารองค์กรธุรกิจ โดยจะพบว่ามีการหารือกันเกี่ยวกับการวางกฎระเบียบด้านข้อมูลมาเสียยิ่งกว่าการโทรศัพท์เพื่อติดตามสอบถามเรื่องผลประกอบการ หรือรายได้ของบริษัท โดย “CB Insights” (https://www.cbinsights.com/) ได้เผยแพร่ผลการวิเคราะห์บันทึกรายงานการโทรศัพท์ของบริษัททั่วโลกกว่า 6,000รายการ พบว่า มีจำนวนครั้งที่ GDPR ถูกพูดถึงเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 1 ปี 2017 กับไตรมาสที่ 1ปี 2018
การกำหนดโทษบริษัทที่ละเมิด GDPR ต้องเสียค่าปรับถึง 20 ล้านยูโร (763 ล้านบาท) หรือ 4% ของรายได้ทั่วโลก (ขึ้นอยู่กับว่าจำนวนใดจะสูงกว่า)ทำให้นักการตลาดจำนวนมากกังวลว่า พวกเขาอาจเสี่ยงต่อการถูกปรับหากทำงานร่วมกับผู้ให้บริการที่ไม่สอดคล้องกับGDPR
จากการสุ่มสำรวจนักการตลาด255รายทั่วโลก โดย “Demandbase and Demand Metric” เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา พบว่ามีเพียงแค่ 1ใน 5ของกลุ่มตัวอย่างที่ระบุว่าไม่รู้สึกกังวลว่า ผู้จัดจำหน่ายเทคโนโลยีของตนจะทำให้เสี่ยงต่อความผิดดังกล่าว ขณะที่ประมาณ 6ใน 10 ระบุว่ามีความกังวลบางอย่างที่ทำให้เกรงว่าผู้ขายของเขาจะทำให้เกิดความเสี่ยงต่อกฎหมาย โดยมี 9%ที่ยอมรับว่ารู้สึกกังวลมาก
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าประเด็นเรื่อง GDPR จะทำให้บุคคลทั่วไปเกิดความตื่นตัวและให้ความสำคัญกับประเด็นเรื่องการถูกนำข้อมูลส่วนตัวไปใช้มากขึ้น แต่คนส่วนใหญ่กลับยังไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงในประสบการณ์ระหว่างตัวของเขาหรือแบรนด์สินค้าแต่อย่างใด โดยจากการสำรวจผู้บริโภคอังกฤษจำนวน 1,155 ราย ที่ดำเนินการโดยMarketing Week and Tolunaเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ชี้ว่า2ใน 3ของผู้ตอบแบบสอบถาม ระบุว่า GDPRไม่มีผลต่อประสบการณ์ของพวกเขากับแบรนด์ ขณะที่ผู้ตอบแบบสอบถามประมาณครึ่งหนึ่ง ยอมรับว่า ไม่รู้ว่าบริษัทที่ใช้ข้อมูลของพวกเขานั้นละเมิด GDPR หรือไม่
ที่มา eMarketer
